ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เขียนอะไร เพราะเป็นห่วงลูก ภาวะเครียดของอายเองก็เริ่มขึ้น นมลดเห็นๆเลยในช่วง2-3วันนี้…. เพราะสังเกตเห็นตุ่มบวมๆเหมือนยุงกัดที่คิ้ว
💛
พาพินดาไปหาคุณหมอ เพราะสังเกตก้อนที่คิ้วข้างขวาเพิ่งขึ้นเมื่อไม่นานตุ่ยๆบวมขึ้น ตอนแรกจะเห็นนูนนิดเดียวตอนเค้าร้องไห้ เหมือนรอยคิ้วเราเวลาแสดงอารมณ์ ติดตามอาการบวมที่คิ้วข้างขวา ทำอัลตราซาวน์โดยละเอียด(อัลตราซาวด์ไม่มีผลกระทบเป็นคลื่นเดียวกับการตรวจตั้งครรภ์) พบว่า มีนูนขึ้นมาเพราะเป็นอาการของ
..
“ เนื้องอกหลอดเลือด (Hemangioma) ฮีแมงจิโอม่า” จัดเป็นปานชนิดหนึ่ง พอเรียกว่าเนื้องอกเราตกใจมาก แต่คุณหมออธิบายว่าพบได้ทั่วไปในเด็กเล็ก ถ้าเราเห็นและรักษาก่อนจะค่อยๆยุบลง หายไปเองเมื่อโตขึ้น1-2ขวบ หรือคนที่บวมมากแล้วมาเจอช้าก็อาจจะหายหลัง5ขวบ จะไม่เป็นถึงตอนโตหรือในวัยผู้ใหญ่ จะบวมขึ้นถ้าสังเกตุเห็นก่อน ให้ยารักษามันก็จะหยุดโต และหายไป แรกเกิดเราจะไม่เห็น มาเห็นอีกทีช่วงที่เริ่มบวมทีละนิดๆ
เกิดจากกลุ่มหลอดเลือดมีมากจึงทำให้นูนขึ้น อาการเป็นมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา มีหลายประเภทอีกแบบลึกแบบตื้น
.
เจ้าก้อนนี้เป็นเรื่องของความสวยงามไม่มีผลต่อร่างกาย น้องร่าเริงปกติไม่มีผลต่อพัฒนาการ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถทำเลเซอร์เพื่อรักษาได้ถ้าเกิดเป็นรอยไม่สวยงาม
.
ความโชคดี: เห็นก่อนและยังมีขนาดเล็กเหมือนตุ่มยุงกัดอยู่บริเวณคิ้วพอดี ไม่เจ็บไม่แดงทั้งก้อน ดีที่เอะใจแล้วรีบไปตรวจก่อนกับคุณหมอเฉพาะทางผิวหนังเด็ก
.
สาเหตุ: เกิดได้หลายสาเหตุมาก เช่น คลอดก่อนกำหนด เกิดในเพศ ญ มากกว่าเพศชาย3 เท่า
ร่างกายผลิตโปรตีนในรกออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งเราจะไม่สามารถรู้ได้ถ้าไม่ได้บ่งบอกว่าครรภ์เป็นพิษ แต่ของพินดาคือปกติทุกอย่างและในครอบครัวไม่มีใครมีประวัติเป็นก็อาจจะเป็นได้ว่า มีหลอดเลือดมาอยู่ตรงนี้มากกว่าจุดอื่นเลยเป็นได้ สามารถขึ้นไปตามทั่วไปของร่างกาย ไม่ได้เป็นตั้งแต่แรกเกิด แต่เริ่มเห็นได้หลัง 2เดือนเป็นต้นไป
.
💛ขั้นตอนการรักษาในตอนนี้
หาคุณหมอเฉพาะทางแพทย์ผิวหนังเด็ก ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยตรง :
เริ่มรักษาด้วยยาเพื่อยับยั้ง
1.ยากลุ่ม Beta Blocker ยา โพรพาโนรอล ยากิน เหมาะกับสำหรับเนื้องอกหลอดเลือดที่ยังเล็กและไม่หนาแบบของพินดา จริงๆเป็นยาลดความดันโลหิตสูง ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว มีผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้สเตียรอยด์ ผลข้างเคียงที่บางคนอาจจะเป็นเมื่อได้รับยา : อาการความดันเลือดต่ำ กินได้น้อย ซึม
.
คุณหมอเลยเริ่มการรักษาดังนี้:
พินดาได้รับยาที่โรงพยาบาล วัดความดันก่อนซึ่งวัดยากเพราะน้องไม่อยู่เฉย และห้ามร้องไห้ด้วยเพราะเดี๋ยวไม่ตรง พอได้ค่าความดันปกติแล้ว วิธีการบดยา แล้วผสมน้ำ และน้ำหวานนิดหน่อยให้ทานง่าย ทานแล้วสังเกตุอาการ 1 ชม. กลับมาวัดความดันอีกครั้ง
ผลออกมาคือปกติ ไม่มีอาการแพ้ยา หรือซึม กินนมได้เหมือนเดิม เป็นเด็กแข็งแรง น้ำหนักตัวดีอายุ 4เดือน น้ำหนัก 7.2 กก. ไม่น่าเป็นห่วง
.
ต้องกินแบบนี้ทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 6 ชั่วโมงตรงเป้ะๆและผ่านไป1สัปดาห์จะเพิ่มยาให้มากขึ้น จนไปลดลงช่วงอายุ 6 เดือน
เพื่อการรักษาที่ดีที่สุดและสังเกตอาการ ภายใน 2 เดือนนี้ ถ้าหายคือหายและไม่เป็นอีก >>>>
คุณหมอบอกเด็ก 30% ที่รับยานี้จะยุบลง และ 70% จะหายสนิท เราก็หวังให้เป็นผลดีดีแล้วกัน
…..
อายถามคุณหมอเผื่อไว้ ถ้าไม่ดีไม่หายเราจะอย่างไรต่อไป
ถ้าไม่หาย ขั้นต่อไป จะทำ MRI ถึงกับต้องวางยาสลบเพราะต้องนิ่งตอน MRI จะระบุได้ชัดเจนว่า เป็นอะไรที่ละเอียดขึ้น น้องยังเด็กมากก็ไม่อยากให้ทำ แต่ขอให้หาย ช่วยอวยพรให้ด้วยนะคะ

สุดท้ายนี้
🟡ถ้าใครมีคำแนะนำ หรือมีประสบการณ์ตรงแนะนำได้เลย
ขอบคุณคุณหมอมากที่ รักษาและวินิจฉัยได้รวดเร็ว
ขอบคุณลูกที่เกิดมาเป็นแข็งแรง เลี้ยงง่ายมาเสมอ กินอิ่ม นอนหลับโตเร็ว หนูแทบจะไม่งอแง และให้ความร่วมมือทุกอย่าง

ตอนนี้ก็ให้กำลังใจตัวเอง ให้ไม่กลัว ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ ใจเราต้องไม่กลัวไว้ก่อน ด้วยความเป็นแม่จะมากจะน้อยก็ห่วงลูกสุดใจ สังเกตลูกอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ทุกอย่างไม่น่าเป็นห่วงและรักษาได้ทันเพราะแม่กลัว ลูกเป็นผู้หญิง กลัวไม่สวยงาม

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ต้องหาหมอที่ตรวจุดเฉพาะทางเร็วที่สุดไม่ว่าเราสงสัยอะไร รักษาได้เร็วตั้งตัวได้ทัน
และที่สำคัญการอ่านในอินเตอร์เน็ตทำให้เรารู้และมีความวิตกกังวลมากขี้นไปอีกเพราะมีหลายอาการหลายรูปแบบที่น่ากลัว แต่มันอาจไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นก็จะอ่านหาความรู้และต้องแยกแยะอีกเช่นกันไม่งั้นไม่มีความสุข
….
อย่างไรก็ตาม อายจะหา ความคิดเห็นที่2 จากคุณหมออีกท่านเพื่อความสบายใจที่สุดของอายและครอบครัว ควบคู่ไปกับการรักษาในช่วงนี้

ขอให้ลูกแม่ไม่เป็นไรอะไรมากรักษาหายโดยเร็ว ❤️
#mylilgirlPinda

Facebook Comment
Menu